คนรุ่นใหม่กับการเมืองไทย

ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ควบคุมการตัดสินใจโดยใช้ประสบการณ์ของพวกเขาเป็นตัวตั้ง ราวกับว่าประสบการณ์ที่มีนั้นเป็นชุดความจริงเดียวที่มีอยู่ในโลก ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยน ผู้ใหญ่ต้องการที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงไม่ผิดเพี้ยนไปจากความเชื่อที่พวกเขามี เราจึงมีนโยบายทางสังคมที่พยายามปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่เติบโตความคาดหวังของผู้ใหญ่ อย่างค่านิยมของคนไทย 12 ประการ

คนรุ่นใหม่เติบโตมากับความย้อนแย้งระหว่างคำสอนและการกระทำของผู้ใหญ่ ถูกคาดหวังให้คิดและตั้งคำถามให้เป็น แน่นอนล่ะ ความพยายามที่จะปลูกฝังคุณค่าตามแบบอย่างของผู้ใหญ่ด้วยการท่องจำ มันทั้งไม่น่าศรัทธาและไม่เกิดผล

อีกทั้งคนรุ่นใหม่เรียนรู้จากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน เราเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลมากมายหลายมิติ ซึมซับวัฒนธรรมร่วมสมัยจากประเทศตะวันตกที่สื่อสารถึงความแตกต่างหลากหลายของผู้คน และเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่มีข้อบกพร่อง มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะคิดและเป็นไปตามความคาดหวังของผู้ใหญ่

เมื่อชุดความเชื่อของผู้ใหญ่ครอบงำการตัดสินใจทางสังคม โดยไม่มีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง กระบวนการค้นหาและทำความเข้าใจในคุณค่าที่โลกปัจจุบันได้หล่อหลอมคนรุ่นใหม่จึงถูกปิดกั้น ดังนั้นแล้วคนรุ่นใหม่จะสามารถเรียนรู้และเติบโตได้อย่างไรกัน? เพราะหากการเรียนรู้และการเติบโตจะเกิดขึ้นได้เมื่อคนมีอิสระในการตัดสินใจ ได้รับผิดชอบและทำความเข้าใจด้วยตนเอง

ในงานรวมตัวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง(บางสิ่ง)หรืองานเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ผู้ใหญ่มักจะแสดงออกโดยนัยยะว่า เด็กสมัยนี้ไม่ได้ดังใจ ไม่รู้จักตนเอง ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีวินัย ไม่สนใจชุมชน ซึ่งไม่ว่าจะพยายามอย่างไร หากไม่เปิดโอกาสและสนับสนุนให้เด็กได้ใช้เสียงของตัวเองแบบที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของผู้ใหญ่ เราคงไม่มีวันที่จะได้รู้จักกันในฐานะที่เป็นมนุษย์เสมือนกัน

คนรุ่นใหม่ … พวกเราไม่ได้ lost แต่เราไม่เคยมีพื้นที่สำหรับการแสดงออกอย่างที่เป็นโดยแท้จริง

หากต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตใหม่ที่ดีกว่า เราเริ่มได้ด้วยการใช้สิทธิและเสียงแสดงออกถึงความต้องการของพวกเรา สังคมจะได้เดินไปต่ออย่างสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเราเป็น

Please follow and like us:
0