เรียนจบอเมริกา มีธุรกิจเป็นของตัวเอง กำลังผ่อนคอนโด สามารถเดินทางไปพักผ่อนและทำงานในต่างประเทศได้ การดำเนินงานของรัฐก็ไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนอะไรมาก จริงๆแล้ว ไม่ต้องสนใจการเมือง ก็คงไม่เป็นไร (มั้ง) …แล้วผมตัดสินใจร่วมทำพรรคการเมืองทำไม?
ในมุมหนึ่ง อาจมีคนคิดว่าผมกล้าดีที่ตัดสินใจเช่นนี้โดยเฉพาะในขณะที่ผู้มีอำนาจปิดกั้นอิสรภาพและสามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ แต่ในแง่หนึ่ง อาจมองได้ว่าผมจะสมัครเป็นตัวแทนลงเลือกตั้งเพื่ออำนาจและชื่อเสียง หรือว่าผมต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมที่เป็นอยู่อย่างนี้มาช้านานซึ่งคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และไม่ว่าจะเจตนาดีเพียงใด สุดท้ายก็จะโกงกินบ้านกินเมืองอย่างนักการเมืองคนอื่นๆ
เหตุผลจริงๆ คือ ผมต้องการที่จะมีส่วนร่วมทางสังคมในฐานะพลเมือง ด้วยการลงมือทำมากกว่าที่จะบ่นถึงสังคมที่ไม่เป็นตามที่ควรจะเป็น ซึ่งการเข้าร่วมพรรคที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใช้สิทธิ์และเสียงในการทำงานและตัดสินใจอย่างเต็มที่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยผมก็สามารถยืนยันกับตัวเองได้ว่าผมเลือกใช้ชีวิตตามจุดยืนในชีวิตของผมแล้ว
เมื่อเริ่มทำธุรกิจ ผมไม่ได้ทำมันด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง เราลงทุนและแรงเพื่อศึกษาและสร้างสรรค์ธุรกิจท่ามกลางทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและการแข่งขันที่เข้มข้น เราเติบโตด้วยความตั้งมั่นที่จะนำเสนอธุรกิจด้วยคุณค่าที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ใช้บริการที่คู่แข่งยังเข้าไม่ถึง
ในการบริหาร ผมตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมภิบาล มีระบบบัญชีและทำเรื่องภาษีที่ถูกต้อง ลงทะเบียนประกันสังคม ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้บริการด้วยคุณค่า ความจริงใจ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการ เมื่อผมจดทะเบียนบริษัท ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามข้อกฏหมาย และผมมักจะได้ยินว่า “ไม่อยากจ่าย (ภาษี/ประกันสังคม) เลย ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร …ไปทำงานอย่างอื่นที่การจ่ายเงินยืดหยุ่นจากการจ่ายภาษีดีกว่าไหม”
ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่การแข่งขันทางธุรกิจที่ต้องเผชิญ แต่ผมต้องทำงานกับระบบที่ไม่ส่งเสริมความซื่อสัตย์และการรับผิดชอบร่วมกันในสังคม เช่นเดียวกับหลายๆคน ผมมักจะถามตัวเองว่า แล้วจะมีธรรมภิบาลไปเพื่ออะไรกัน?
ในกระบวนการของการขัดเกลาทางสังคม ผ่านความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ระบบโรงเรียนและสื่อต่างๆ ผมถูกหล่อหลอมให้เชื่อในความดี ไม่คดโกง เอื้อเพื้อเผื่อแพร่ และมีน้ำใจต่อผู้อื่น ซึ่งเงื่อนไขความเป็นอยู่ในชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้บังคับให้ผมต้องฝ่าฝืนความคาดหวังเหล่านี้เท่าไหร่นัก เมื่อเติบโตขึ้น ผมเข้าใจได้ว่าที่ทำไปไม่ใช่เพราะต้องการที่จะเป็นคนดี ไม่คดโกง แต่ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของการร่วมรับผิดชอบสังคมผ่านระบบและกลไกของรัฐ
ถึงแม้ผมจะมีคำถามมากมายและไม่เชื่อมั่นในการบริหารจัดการของรัฐที่ไม่ได้มีที่มาจากการตัดสินใจของประชาชนส่วนมาก ผมจำยอมทำด้วยหน้าที่ตามกฏหมาย มันเปรียบเสมือนผู้เช่าอาศัยที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแต่ไม่มีสิทธิ์และเสียงในการร่วมตัดสินใจว่าอยากให้ที่พักอาศัยเป็นอย่างไร สอดคล้องกับวิถีชีวิตของเรามากน้อยเพียงใด
แต่เมื่อมีหน้าที่ เราย่อมต้องมีสิทธิ์ สิทธิหนึ่งที่พึงมีในฐานะประชาชน คือ การเข้าร่วมพรรคการเมืองเพื่อสร้างสังคมที่เราฝันถึงผ่านระบบและกลไกของรัฐ
ในขณะที่หลายคนอาจมองว่าการเมืองสร้างความวุ่นวาย ปล่อยให้สังคมอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เป็นอยู่ดีแล้ว สำหรับผม สังคมของเราอาจจะสงบ แต่ความสุขถูกจำกัดอยู่กับคนจำนวนน้อยที่มีอภิสิทธิ์และต้นทุนทางสังคมที่สูง
คนส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่ได้อย่างเป็นสุข ไม่ว่าจากปัญหาเศรษฐกิจผูกขาด กระจุกตัวของความเจริญ ระบบเครือข่ายอุปถัมภ์ โอกาสและช่องทางการประกอบอาชีพที่จำกัดคับแคบ สวัสดิการของรัฐที่ล้าหลังและไม่เคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ตลอดจนการถูกละเมิดสิทธิในทุกๆด้านของผู้ด้อยอภิสิทธิ์
ผมอายุ 27 ปี เรียนจบอนุปริญญาด้านธุรกิจ และอนุปริญญาหลักสูตรอิสระตามปัจเจก (individuialized plan) จากวิทยาลัยชุมชนอเมริกา ในขณะที่ศึกษาอยู่ในวิทยาลัย ผมได้มีส่วนร่วมทางสังคมในฐานะประธานสภานักศึกษาของวิทยาลัย 2 ปี ประสบการณ์ในวิทยาลัยทำผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเท่าเทียมและความยุติธรรมทางสังคม การศึกษาและการได้ใช้ชีวิตในสังคมที่มีแต่คนแปลกหน้าและเปิดกว้างต่อวิธีคิดและความเชื่อทำให้ผมได้ทบทวนและทำความเข้าใจแก่นชีวิตและวิธีคิดของตัวเอง ผมอยากเห็นสังคมที่สนับสนุนโอกาสให้กับคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง และมีองค์ความรู้ของการเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างหลากหลายกระจายอยู่ในวงกว้างของสังคม
ในพรรคอนาคตใหม่ ผมจะร่วมกับเพื่อนๆในการสร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ทำงานเชิงพื้นที่ขยายเครือข่าย ด้วยหลักประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม รวมไปถึงการพัฒนาข้อเสนอ การทำงานเชิงนวัตกรรม และงานสื่อสารที่สอดคล้องกับคุณค่าและวิถีของคนรุ่นใหม่
กันต์พงศ์ ทวีสุข
*เผยแพร่ครั้งแรกทาง FB Page : New Gen Network