ผมร่วมจดจัดตั้ง #พรรคอนาคตใหม่ เพราะมองไม่เห็นว่าตัวเองจะสามารถอยู่ในสังคมนี้ต่อไปอีก 3-5 ปีด้วยความนิ่งนอนใจได้อย่างไร
ในฐานะประชาชนที่อยู่ภายใต้รัฐ ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย จ่ายภาษี แต่กลับไม่รู้สึกถึงโอกาสที่จะได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจใช้งบประมาณ กำหนดทิศทางของประเทศ ผมไม่มั่นใจเลยว่าอนาคตของสังคมนี้จะยึดโยงกับคุณค่าและวิถีชีวิตของผม
จริงๆแล้ว ผมรู้สึกไม่พร้อมที่จะลงสนามการเมือง ถึงแม้สนใจอยู่บ้าง แต่ผมไม่ได้เรียนและศึกษามาทางด้านปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ ผมไม่ได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้มาทำงานการเมือง อย่างน้อยก็ในช่วงวัยนี้
แต่หากไม่เลือกใช้โอกาสนี้ เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อทิศทางทางการเมือง สร้างรัฐที่ทำงานโดยคำนึงถึงสวัสดิการและการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นพื้นฐาน ผมคงจะผิดหวังกับการตัดสินใจของตัวเอง
การตัดสินใจจึงมาพร้อมกับความรู้สึกรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง เพราะเมื่อตัดสินใจที่จะมีส่วนร่วมแล้ว ผมต้องการจะไปให้สุดกับโอกาส ที่จะได้ร่วมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ที่สร้างสรรค์และโปร่งใส ในขณะเดียวกัน ผมรับรู้เป็นอย่างดีว่ากำลังจะกระโจนเข้าสู่งานหิน ซึ่งมีความซับซ้อนสูงมาก มีข้อจำกัดที่มากมาย เช่นเดียวกันความคาดหวังที่หลากหลาย
สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ คือ การใช้ความสดและชุดประสบการณ์ที่แตกต่างของพวกเราเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์มาตรฐานใหม่ ในกระบวนการทำงานที่ต้อนรับความหลากหลาย เป็นปัจจุบันและเชื่อมโยงกับประชาชน
ทั้งนี้ภายใต้บรรยากาศแห่งความไม่แน่นอน และอิสรภาพที่ถูกจำกัดโดยอำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน มันยากที่จะสื่อสาร ทำและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ให้เกิดขึ้น หากคสช.จริงใจต่อการผลักดันให้สังคมเดินต่อไปข้างหน้า ผมอยากเรียกร้องให้ปลดล็อคคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ และการลงมือทำงานสร้างสรรค์อนาคตใหม่ของสังคม
บทความ : 1 ปี คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 : “อำนาจพิเศษ” ในสถานการณ์ปกติ – https://www.isranews.org/isranews-article/45987-3-2558.html
